เมื่อครั้งผู้บริหารโครงการทุนการศึกษา บริษัท กรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด ได้มีโอกาสไปร่วมพูดคุยในรายการเจาะใจ (ออกอากาศวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ) หนึ่งในคำถามที่ผู้ดำเนินการรายการ คุณสัญญา คุณากร ได้ถามหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวการให้โอกาสทางการศึกษาแก่เด็กไทยมาสองทศวรรษ ว่า มีเคล็ดลับอย่างไรในการทำงานเพื่อสังคมให้มีความสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนในยุคนี้ก็ยังคงมีคำถามเสมอว่า เราจะทำดีอย่างไรให้ตัวเองรู้สึกไม่ท้อและไม่ทุกข์กับการได้ช่วยเหลือผู้อื่น
จึงขอนำมาถ่ายทอดและขยายความอีกครั้งเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เราต่างรู้สึกต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคและเหตุการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 โดยเฉพาะในปัจจุบันสังคมของเราต้องการจิตอาสาในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะเราต่างต้องเผชิญอุปสรรคและสิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อนที่มาพร้อมกับการแพร่ระบาดของโรคภัยครั้งนี้ เพราะไม่ว่าเราจะอยู่ในบทบาทใดก็ตามในสังคมจะเป็นผู้ประกอบการ เป็นคนทำงานในองค์กร หรือเป็นสมาชิกในครอบครัว เราต่างต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง เพื่อให้สามารถรับมือได้กับทุกสถานการณ์
แนวคิดทำดี แต่ไม่ทุกข์ ทำดีแล้วไม่ท้อ.. “ถ้าทำความดีอะไรก็ตาม ทำไปแล้วให้ทิ้งมันไป เพื่อเดินหน้าต่อไป เท่ากับว่าเรามีหน้าที่อย่างเดียว คือ ทำต่อไป ..”
ฉะนั้นเมื่อเรากำลังอยู่ในสังคมที่ต้องการจิตที่อาสาร่วมมือกันสนับสนุนกันและกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตามขอให้ทำไป เพราะล้วนเป็นสิ่งที่ดีทั้งสิ้น เมื่อทำแล้วก็ให้ลืมสิ่งที่เราได้ทำ หรือลืมสิ่งที่เราเคยทำดีไว้กับใครมาบ้าง เพื่อว่าเราจะได้ไม่คาดหวังกับสิ่งที่เราได้ทำลงไป เมื่อไม่คาดหวัง เมื่อละ ลดทิ้งสิ่งเหล่านี้ได้ เราย่อมไม่ทุกข์กับความดีที่เราทำ นั้นจึงจะเป็นการพบกับความสุข
ในทุกการวางแผนไม่เพียงแผนสู่เป้าหมายจะเป็นสิ่งสำคัญ ทางเลือกเพื่อสำรองทางรอด ดังที่ปราชญ์จีน ซุนวู หรือ ซุนจื่อ เป็นผู้เขียนตำราพิชัยสงครามซุนจื่อที่นับว่าเป็นตำรายุทธศาสตร์ทางทหาร และมีอิทธิพลต่อแนวคิดในการวางแผนของผู้นำและนักธุรกิจในประเทศจีน ที่บอกว่าทุกยุทธศาสตร์นอกจากมีการบุกเพื่อชนะ ยังต้องมีวิธีถอยที่ชาญฉลาดอีกด้วย
นอกจากนี้ความทุกข์ของคนในปัจจุบัน เป็นที่สังเกตว่ามักเกิดจากการย้ำอยู่กับเรื่องเดิมๆและหาทางออกไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเสพและรับข่าวสารจาก social media จำนวนมากเป็นเวลานานๆ ดังนั้น เมื่อเราลองแยกสิ่งที่เราทำได้ออกจากปัญหา เราจะเห็น และเริ่มคลี่คลาย ว่ามีสิ่งไหนบ้างที่เราพอจะทำได้และเกิดพลังบวกแทนพลังลบตั้งแต่เริ่มต้น เหมือนกับทฤษฎี Foresight ทฤษฎีที่ว่าด้วยเรื่องการมองไปข้างหน้า โดยเริ่มจากการหัดเลือกเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์เท่านั้น ที่จะทำให้เรารู้จักตั้งคำถามและหาคำตอบด้วยการลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์
โฟกัสแต่สิ่งที่เป็นไปได้ กลั่นกรองกระบวนความคิด มีเวลาขัดเกลาตัวเอง เท่านี้เราจึงไม่ต้องเสียเวลาไปกับปัญหาและความทุกข์ที่เราไม่ได้โฟกัสอีกต่อไป
© 2020 ThaiCity4Social. All Rights Reserved.
สร้างภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมทักษะการใช้ชีวิต เพื่อเติมเต็มศักยภาพอย่างรอบด้าน สู่การเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด ..
ก้าวสู่สองทศวรรษกับการดำเนินงานเพื่อสังคม ด้านการ ให้โอกาสทางการศึกษา เพื่อให้เด็กไทยหลุดพ้นความยากจนอย่างยั่งยืน
อ่านบทความ และข่าวอื่นๆ ได้ที่ :
https://thaicity4social.com/news-2/
Facebook โครงการทุนการศึกษา :