เติบโต
และเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
- เรียนรู้จากตัวเอง สู่การเรียนรู้อย่างรอบด้าน
- รับผิดชอบตนเอง ชุมชน และสังคม
เพราะเราคำนึงถึงการพัฒนา “คน”
ด้วยการ... สร้างพื้นที่การเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด
ให้ทุนการศึกษา แก่นักเรียนทุนฯ ทั่วประเทศ จนจบการศึกษา
รวมทั้งหมด
ทุนการศึกษา
จบระดับอาชีวศึกษา
ทุนการศึกษา
จบระดับมหาวิทยาลัย
ทุนการศึกษา
โครงการทุนการศึกษาฯ ให้การสนับสนุนอย่างทั่วถึงในทุกสังกัด ได้แก่
1. สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ
2. สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ
3. สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
4. กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
5. มูลนิธิโครงการหลวง ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ (คกล.)
6. มูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ปีการศึกษา 2568
โครงการทุนการศึกษาฯ ได้มอบทุนการศึกษาต่อเนื่อง
ทุนการศึกษา
“กรุงไทยการไฟฟ้า” สร้างมิติความยั่งยืนตั้งแต่ฐานรากด้วย SEED Model
แนวคิดที่ให้ความสำคัญกับ 5 องค์ประกอบสำคัญ
ซึ่งจะส่งเสริมให้การทำงานเพื่อสังคม ด้านการให้โอกาสทางการศึกษาเกิดผลเป็นรูปธรรม
1. ผู้เรียน
1.1 ให้ความสำคัญตั้งแต่ระดับปฐมวัย เพราะในช่วงอายุตั้งแต่ 0 ถึง 6 ปีบริบูรณ์ การอบรมและเลี้ยงดูแก่เด็กปฐมวัยมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่ธรรมชาติของสมองมนุษย์ ควรได้รับการพัฒนาอย่างสมวัย ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ 1. พัฒนาการรอบด้าน คือ ด้านร่างกาย ความแข็งแรง ความเบิกบานมั่นคง สติปัญญา การจดจำ 2.พัฒนาการด้านตัวตน (Self) คือ รู้จักตนเอง การเห็นคุณค่าในตนเอง 3. พัฒนาทักษะสมอง คือ Executive Function คือ ความสามารถที่เกิดจากการทำงานของสมองส่วนหน้าที่ช่วยให้คนเราสามารถควบคุมความคิด อารมณ์ พฤติกรรม ดังนั้น ช่วงปฐมวัยจึงเป็นช่วงที่สำคัญที่ควรได้รับการพัฒนาอย่างเต็มกำลัง ก่อนที่เยาวชนจะเติบโตตามลำดับไปถึงอุดมศึกษา
1.2 สนับสนุนทุนการศึกษาอย่างไม่มีข้อผูกมัด ครอบคลุมทุกสายการเรียนเพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศ ให้องค์ความรู้และทักษะด้วยการเติมเต็มขีดความสามารถให้กับผู้รับทุนฯ เพื่อจะต่อยอดไปสู่การสร้างประชากรที่มีศักยภาพ สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและสร้างรายได้ให้กับประเทศนำไปสู่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติในอนาคต
1.3 สร้างทัศนคติที่ดี เพื่อให้เกิดการตระหนักและคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ผ่านการหล่อหลอมกิจกรรมที่ปลูกฝังจริยธรรมและจิตสำนึกการเป็นส่วนหนึ่งของโลก เพื่อสร้างความตระหนักในการรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม เพราะเยาวชนที่ได้รับทุนการศึกษาเมื่อสำเร็จการศึกษาจนสามารถประกอบอาชีพได้จะกลายเป็นกำลังหลักของครอบครัวและของประเทศในอนาคต ดังนั้น “คน” เข้มแข็ง คือคนที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ซึ่งเกิดจากการสร้างองค์ความรู้และความสามารถที่ควบคู่คุณธรรม
2. สถาบันครอบครัว
พ่อแม่ และผู้ปกครองคือหลักสำคัญในการพัฒนาคุณภาพ “คน” ให้กับประเทศ ที่จะให้ความร่วมมือและเห็นความสำคัญของอนาคตบุตรหลาน จากประสบการณ์ตรงของโครงการทุนการศึกษาฯ การทำความเข้าใจระหว่างผู้ปกครอง ต้องอาศัยระยะเวลาความไว้วางใจ ความเชื่อมั่น และความเข้าใจ เนื่องจากการลาออกกลางคัน หรือล้มเลิกการเรียนของผู้รับทุน มักเกิดจากพื้นฐานปัญหาครอบครัวส่วนบุคคลของนักเรียนทุนฯ เช่น ความประสงค์ที่ต้องการให้นักเรียนทุนฯ หารายได้ช่วยเหลือครอบครัว ดังนั้น การสร้างความเข้าใจและความร่วมมือกับสถาบันครอบครัวเป็นสิ่งที่องค์กรหรือผู้ที่จะทำงานทุนการศึกษาจำเป็นต้องทำให้สำเร็จ ตัวอย่างเช่น การจัดกิจกรรมประชุมชี้แจงทำความเข้าใจระหว่างองค์กรให้ทุน สถาบันการศึกษา และครอบครัว เพื่อให้สถาบันครอบครัวเห็นความสำคัญของการศึกษาบุตรหลาน หรือจัดตั้งคณะทำงานการดำเนินงานร่วมกัน เป็นต้น
3. สถาบันการศึกษา
เพราะ "ครู" คือต้นทางและต้นแบบที่สำคัญในนิเวศการเรียนรู้ มีบทบาทต่อการสร้างศักยภาพผู้เรียนและเป็นผู้นำที่จะช่วยลดปัญหาความแตกต่างของคุณภาพทางการศึกษาระหว่างเมืองและชนบท การทำงานของโครงการทุนการศึกษาฯ จึงเชื่อมต่อผ่านครูที่ไม่ได้จำกัดไว้แค่ในห้องเรียน การพัฒนาครูจึงครอบคลุมทุกมิติโดยมีนักเรียนหรือผู้เรียนเป็นศูนย์กลางโดยทำงานร่วมกับ..
3.1.ครูปฐมวัย โครงการทุนการศึกษาฯ สนับสนุนการสร้างพื้นที่ครูปฐมวัยตัวอย่างเพื่อการพัฒนาทักษะสมองเด็กอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน ตั้งแต่ปี 2567 ถึงปัจจุบัน และสนับสนุนให้กลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองเห็นความสำคัญในการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพและพัฒนาการด้านตัวตนในเด็กปฐมวัย รวมถึงการเติมเต็มความรู้และเสริมสร้างกระบวนการ Professional Learning Community (PLC) ให้แก่บุตรหลาน ให้ครูปฐมวัยเหล่านี้เป็นแกนนำหลักสำคัญทางภาคเหนือ ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย โครงการสวนเด็กสุทธาเวช ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ก่อเกิดหลักสูตรครูผู้สอนเด็กปฐมวัย โดยสร้าง อาคารเมล็ดพันธุ์ให้กับคณะแพทยศาสตร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อให้เป็นต้นแบบและเป็นสถานที่เรียนรู้ สามารถเผยแพร่องค์ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดการเด็กปฐมวัยในระดับประเทศ
3.2.ครูในระบบ กิจกรรมที่โครงการทุนการศึกษาฯ สนับสนุนครูในระบบและนอกระบบ ในพื้นที่ภาคอีสาน (ขอนแก่น เลย อุดรธานี กาฬสินธุ์) ตั้งแต่ปี 2567 จนถึงปัจจุบัน ขยายผลถึงภาคใต้ (สงขลาและสามจังหวัดชายแดนใต้) และกรุงเทพมหานคร ได้เข้าสู่กระบวนการพัฒนาทักษะการออกแบบการเรียนการสอนการสื่อสารกับผู้เรียนที่เป็นปัจจุบัน เข้าถึงและเข้าใจผู้เรียน และการสร้างเครือข่ายทำงานร่วมกันในพื้นที่เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของกลุ่มครูที่เท่าทันสถานการณ์ของสังคมและโลกโดยไม่ทิ้งชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น
3.3 ครูนอกระบบ สนับสนุนการเชื่อมต่อองค์ความรู้ที่สืบทอดเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนการฟื้นฟูและรักษาประเพณี วัฒนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นทรัพยากรความรู้ที่มีค่าเผยแพร่แก่เยาวชน เพื่อให้เกิดการรักษาและสืบทอด ได้แก่ ห้องเรียนชุมชน ปราชญ์ชาวบ้านผู้รู้ในท้องถิ่น เพื่อ "ให้ความสำคัญกับฐานราก คือชุมชนมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าขององค์ความรู้อย่างแท้จริง"
สถาบันการศึกษาจึงเป็นต้นทางของการสร้างองค์ความรู้ที่รอบด้านผ่านการพัฒนาการเรียนการสอนที่ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ของโลกภายนอกและเหมาะสมกับศักยภาพของผู้เรียนเพื่อนำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถามการค้นหาคำตอบและความท้าทายในการแสวงหาความรู้ที่เพิ่มขึ้นของผู้เรียนที่ไม่จำกัดไว้แค่ในห้องเรียนเท่านั้น
4. องค์ความรู้
และชุดประสบการณ์
4.1. สร้างโอกาสให้เกิดคุณค่าและการแลกเปลี่ยน (shared values and norms) โครงการทุนการศึกษาฯ เปิดโอกาสให้เกิดกิจกรรมที่สร้างการมีส่วนร่วมและให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ผ่านบุคคลและสถานที่ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้รับทุนการศึกษาฯ เช่น การให้นักเรียนทุนฯ เรียนรู้การปฏิบัติในพื้นที่จริงผ่านปราชญ์ชาวบ้านและผู้ประกอบการที่มีองค์ความรู้และมีภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้ได้เก็บเกี่ยวแนวคิดและสร้างแรงบันดาลใจ สร้างชุดประสบการณ์ที่ทรงคุณค่า จนสามารถกระตุ้นความฝัน ความหวังและความคิดให้คนรุ่นใหม่คืนถิ่นในอนาคต
4.2.ให้ความสำคัญกับหลักสูตรการศึกษาที่ต้องสอดคล้องกับความต้องการของตลาดอาชีพที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จึงสร้างกิจกรรมที่ให้ความรู้และชุดข้อมูลที่ทันเหตุการณ์ตอบโจทย์โลกในอนาคต โดยเพิ่มทักษะและความรู้ด้วยการพัฒนาตนเองเพื่อให้ผู้รับทุนฯ มีขีดความสามารถหลายด้าน สร้างศักยภาพของตนเองให้เกิดประสิทธิภาพ เพื่อที่เมื่อสำเร็จการศึกษาจะสามารถกลายเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ เป็นคนทำงานของโลกอนาคตที่มีความสามารถมากกว่าหนึ่งอาชีพ และสามารถสร้างนวัตกรรมและทำประโยชน์ให้กับตลาดแรงงานของประเทศได้
ทั้งนี้ สิ่งที่โครงการทุนการศึกษาฯ ให้ความสำคัญในการสร้างการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนเสมอ คือ การหล่อหลอมให้ผู้รับทุนฯ มีบุคลิกที่จะเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะคำว่า “เรียนรู้ตลอดชีวิต” ไม่ใช่เพียงโวหารอีกต่อไป แต่คือโลกของความเป็นจริงที่จะทำให้คนที่สามารถปรับตัวได้ คิดให้เป็นได้ จึงจะมีชีวิตอยู่รอดในอนาคต เพราะเป็นการเรียนรู้ต่อการเปลี่ยนแปลง และเรียนรู้ที่จะรับมืออย่างเท่าทัน
4.3. วิทยากร การคัดสรรวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญและหลากหลายเหมาะกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสังคมไทยสังคมโลกมีผลอย่างยิ่งต่อการเพิ่มเติมองค์ความรู้ให้กับนักเรียนทุนฯ
4.4. สนับสนุนวิจัยและนวัตกรรม เนื่องจากการเรียนรู้นั้นไม่สิ้นสุด องค์ความรู้ใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ ดังนั้นการให้ความสำคัญต่อการทำวิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ เป็นสิ่งที่องค์กรที่ทำงานเพื่อสังคมด้านการศึกษาต้องคำนึงถึงเพื่อปรับปรุงและพัฒนางานของตนเองอย่างไม่หยุดนิ่ง
4.5 ติดตามผลเพื่อการพัฒนา จะส่งผลให้เกิดการออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ของเยาวชนได้ตรงกับความต้องการของผู้เรียนเกิดการสร้างการมีส่วนร่วม กิจกรรมบรรลุเป้าหมาย และนำมาสู่การปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานของกิจกรรมให้เท่าทันสถานการณ์
5. สิ่งแวดล้อม และปัจจัยอื่นๆ
เพื่อให้เกิดการสนับสนุนอุปกรณ์ สื่อการเรียนการสอน และสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เป็นการสร้างนิเวศการเรียนรู้ด้วยปัจจัยภายนอกเพื่อเสริมศักยภาพให้กับผู้รับทุนได้เข้าถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ในการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
หมายเหตุ แนวคิด SEED Model เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเลือกองค์ประกอบที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับบริบทขององค์กรหรือบริบทการดำเนินงานเพื่อสังคม เพื่อประโยชน์สูงสุดในการพัฒนา “คน” ให้กับประเทศ
© 2025 ThaiCity4Social. All Rights Reserved.